การเสี่ยง
1. ก่อนเริ่มการเล่น คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายจะทำการเสี่ยง
ฝ่ายี่ชนะการเสี่ยงมีสิทธิ์เลือกตามกติกาข้อ1.1 หรือ 1.2
1.1 ส่งลูกหรือรับลูกก่อน
1.2 เลือกข้างใดข้างหนึ่ง
2. ฝ่ายที่แพ้การเสี่ยงมีสิทธิ์ในที่เหลือจากการเลือก
การนับแต้ม
1. คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่าย จะต้องเล่นเอาชนะให้ได้มากที่สุดใน 3 เกม
เว้นแต่จะตกลงกัน
2. ฝ่ายส่งลูกเท่านั้นทำแต้มได้
3. ในประเภทคู่และ ประเภทชายเดี่ยว ฝ่ายที่ได้ 15 แต้ม
ก่อนเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น
4. ในประเภทหญิงเดี่ยว ฝ่ายที่ได้ 13 แต้ม
ก่อนเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น
5. ถ้าได้ 13แต้มเท่ากัน หรือ 14เท่ากัน(9 เท่ากันหรือ10เท่ากันในประเภทหญิงเดี่ยว)ฝ่ายที่ได้แต้ม
13 หรือ 14(9 หรือ 10) ก่อมมีสิทธิ์เลือก "เล่นต่อ"
หรือ"ไม่เล่นต่อ"ในเกมนั้น
5.1 ฝ่ายที่ได้แต้มก่อน มีสิทธิ์เลือก และต้องเลือกก่อนการส่งลูกต่อไป
5.2 ฝ่ายที่กล่าวมีโอกาศเลือก"เล่นต่อเมื่อได้ 14 แต้มเท่ากัน ( 10 เท่าในประเภทหญิงเดี่ยว ) ถึงแม้จะได้ปฏิเสธ "ไม่เล่นต่อ" มาก่อนโดยฝ่ายนั้นหรืออีกฝ่ายหนึ่งได้แต้ม 13 แต้มเท่ากัน( 9 เท่ากันในประเภทหญิงเดี่ยว)
5.1 ฝ่ายที่ได้แต้มก่อน มีสิทธิ์เลือก และต้องเลือกก่อนการส่งลูกต่อไป
5.2 ฝ่ายที่กล่าวมีโอกาศเลือก"เล่นต่อเมื่อได้ 14 แต้มเท่ากัน ( 10 เท่าในประเภทหญิงเดี่ยว ) ถึงแม้จะได้ปฏิเสธ "ไม่เล่นต่อ" มาก่อนโดยฝ่ายนั้นหรืออีกฝ่ายหนึ่งได้แต้ม 13 แต้มเท่ากัน( 9 เท่ากันในประเภทหญิงเดี่ยว)
6. ถ้ามีการ"เล่นตอ่" ในเกมนั้น ต้องขานคะแนนว่า"ศูนย์เท่า"
และฝ่ายที่ได้แต้มตามที่กำหนดในการเล่ยต่อก่อนเป็นฝ่ายชนะ
6.1 14 แต้มเท่ากันเล่นต่อ 3แต้ม
6.2 10 แต้มเท่ากันเล่นต่อ 2 แต้ม
6.1 14 แต้มเท่ากันเล่นต่อ 3แต้ม
6.2 10 แต้มเท่ากันเล่นต่อ 2 แต้ม
7. ฝ่ายที่ชนะ จะเป็นฝ่ายส่งลูกก่อนในเกมต่อไป
การเปลี่ยนข้าง
1. ผู้เล่นจะเปลี่ยนข้าง
1.1 หล้งจากเกมที่ 1 สิ้นสุดลง
1.2 ก่อนเริ่มเล่นเกมที่ 3 (ถ้ามี)
1.3 ในกามที่ 3 หรือในการแข่งขันเกมเดียว เมื่อฝ่ายใดได้แต้มก่อน 6 แต้ม สำหรับเกม 11 แต้ม 8 แต้มสำหรับเกม 15 แต้ม
2. เมื่อผู้เล่นลืมเปลี่ยนข้างตามที่ระบุไว้ในกติกา ผู้เล่นต้องเปลี่ยนข้างทันทีที่รู้ตัว และให้นับแต้มต่อจากที่ได้ในขณะนั้น
1.1 หล้งจากเกมที่ 1 สิ้นสุดลง
1.2 ก่อนเริ่มเล่นเกมที่ 3 (ถ้ามี)
1.3 ในกามที่ 3 หรือในการแข่งขันเกมเดียว เมื่อฝ่ายใดได้แต้มก่อน 6 แต้ม สำหรับเกม 11 แต้ม 8 แต้มสำหรับเกม 15 แต้ม
2. เมื่อผู้เล่นลืมเปลี่ยนข้างตามที่ระบุไว้ในกติกา ผู้เล่นต้องเปลี่ยนข้างทันทีที่รู้ตัว และให้นับแต้มต่อจากที่ได้ในขณะนั้น
การส่งลูก
1. ในการส่งลูกที่ถูกวิธี
1.1 ทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่พยายามถ่วงเวลาให้เกิดความล่าช้าในการส่งลูก
1.2 ผู้ส่งและผู้รับลูก จะต้องยืนในสนามส่งลูกทแยงมุมตรงข้ามโดยเท้าไม่สัมผัสเส้นเขตสนามส่งลูก บางส่วนของเท้าทั้งสองของผู้ส่งลูกและผู้รับลูกจะต้องสัมผัสพื้นสนามในท่านิ่งจนกว่าจะส่งลูกแล้ง
1.3 ผู้ส่งลูกต้องส่งโดยตีฐานของลูก ขณะที่ทุกส่วนของลูกอยู่ต่ำกว่าเอสของผู้ส่งลูก
1.4 ก้านไม้แแบดฯ ของผู้ส่งลูกในขณะตีลูก จะต้องชี้ลงต่ำจนเห็นได้ชัดว่าส่วนหัวทั้งหมดของไม้แบดฯ อยู่ต่ำกว่าทุกส่วนของมือที่จับไม้แบดฯ ของผู้ส่งลูก
1.5 การเคลื่อนไม้แบดฯ ของผู้ส่งลูกไปข้างหน้าต้องต่อเนื่องหลังจากเริ่มการส่งลูกจนการทั่งได้ลูกแล้ว
1.6 ลูกจะมีวิถีพุ่งขึ้นจากไม้แบดฯของผู้ส่งลูกข้ามตาข่ายและถ้าปราศจากการสกัดกั้น ลูกจะตกลงบนพื้นสานมส่งลูกของผู้รับลูก
2. เมื่อผู้เล่นอยู่ในท่าที่พร้อมแล้ว ทันทีที่หักไม้แบดฯของผู้ส่งลูกขยับไปข้างหน้า
3. ผู้ส่งลูกเริ่มส่งลูไม่ได้ถ้าผู้รับลูกยังไม่พร้อม แต่จะถือว่า ผู้รับลูกพร้อมแล้วถ้าพยายามตีลูที่ส่งมากลับ
4. การส่งลูกได้ส่งแล้วหลังจากที่เริ่มส่ง ลูกถูกตีจากไม้แบดฯของผู้ส่งลูกหรือลูกตกลงพื้น
5. ในประเภทคู่ คู่ขาของผู้ส่งลูกและผู้รับลูกจะยืนอยู่ ณ ที่ใดก็ได้โดยไม่บังผู้ส่งลูกหรือผู้รับรับลูก
1.1 ทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่พยายามถ่วงเวลาให้เกิดความล่าช้าในการส่งลูก
1.2 ผู้ส่งและผู้รับลูก จะต้องยืนในสนามส่งลูกทแยงมุมตรงข้ามโดยเท้าไม่สัมผัสเส้นเขตสนามส่งลูก บางส่วนของเท้าทั้งสองของผู้ส่งลูกและผู้รับลูกจะต้องสัมผัสพื้นสนามในท่านิ่งจนกว่าจะส่งลูกแล้ง
1.3 ผู้ส่งลูกต้องส่งโดยตีฐานของลูก ขณะที่ทุกส่วนของลูกอยู่ต่ำกว่าเอสของผู้ส่งลูก
1.4 ก้านไม้แแบดฯ ของผู้ส่งลูกในขณะตีลูก จะต้องชี้ลงต่ำจนเห็นได้ชัดว่าส่วนหัวทั้งหมดของไม้แบดฯ อยู่ต่ำกว่าทุกส่วนของมือที่จับไม้แบดฯ ของผู้ส่งลูก
1.5 การเคลื่อนไม้แบดฯ ของผู้ส่งลูกไปข้างหน้าต้องต่อเนื่องหลังจากเริ่มการส่งลูกจนการทั่งได้ลูกแล้ว
1.6 ลูกจะมีวิถีพุ่งขึ้นจากไม้แบดฯของผู้ส่งลูกข้ามตาข่ายและถ้าปราศจากการสกัดกั้น ลูกจะตกลงบนพื้นสานมส่งลูกของผู้รับลูก
2. เมื่อผู้เล่นอยู่ในท่าที่พร้อมแล้ว ทันทีที่หักไม้แบดฯของผู้ส่งลูกขยับไปข้างหน้า
3. ผู้ส่งลูกเริ่มส่งลูไม่ได้ถ้าผู้รับลูกยังไม่พร้อม แต่จะถือว่า ผู้รับลูกพร้อมแล้วถ้าพยายามตีลูที่ส่งมากลับ
4. การส่งลูกได้ส่งแล้วหลังจากที่เริ่มส่ง ลูกถูกตีจากไม้แบดฯของผู้ส่งลูกหรือลูกตกลงพื้น
5. ในประเภทคู่ คู่ขาของผู้ส่งลูกและผู้รับลูกจะยืนอยู่ ณ ที่ใดก็ได้โดยไม่บังผู้ส่งลูกหรือผู้รับรับลูก
การทำผิดในสนามส่งลูก
1. การทำผิดในสนามวส่งลูกเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่น
1.1 ส่งลูกก่อนถึงเวลตนเป็นผู้ส่ง
1.2 ส่งลูกจากสนามส่งลูกที่ไม่ถูต้อง
1.3 ยืนในสนามรับลูกที่ไม่ถูกต้องโดยอยู่ในท่าพร้อมที่จะรับลูกที่ส่งมา
2. เมื่อมีการทำผิดเกิดขึ้นในสนามส่งลูก ให้ปฏิบติดังนี้
2.1 ถ้าพบการทำผิดเกิดขึ้นก่อนการส่งลูกครั้งต่อไปให้ "เอาใหม่" เว้นเสียแต่ว่ามีฝ่ายทำผิดเพียงฝ่ายเดียว
และแพ้ในการตีโต้ลูกด้วย ในกรณีดังกล่าว ไม่มีการแก้ไข
2.2 ถ้าไม่พบการทำผิดเกิดขึ้นก่อนการส่งลูกครั้งต่อไป ไม่ต้องแก้ไข
3. ถ้ามีการ"เอาใหม่" เพราะมีการทำผิดในสนามส่งลูก ให้เล่นใหม่พร้อมกับแก้ไข
4. ถ้าไม่มีการแก้ไขเมี่อมีการทำผิดในสนามส่งลูก การเล่นในเกมนั้นคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยบสนาม
ส่งลูกใหม่ของผู้เล่น(หรือสั่งให้ส่งลูกใหม่ในกรณีเดียวกัน
1.1 ส่งลูกก่อนถึงเวลตนเป็นผู้ส่ง
1.2 ส่งลูกจากสนามส่งลูกที่ไม่ถูต้อง
1.3 ยืนในสนามรับลูกที่ไม่ถูกต้องโดยอยู่ในท่าพร้อมที่จะรับลูกที่ส่งมา
2. เมื่อมีการทำผิดเกิดขึ้นในสนามส่งลูก ให้ปฏิบติดังนี้
2.1 ถ้าพบการทำผิดเกิดขึ้นก่อนการส่งลูกครั้งต่อไปให้ "เอาใหม่" เว้นเสียแต่ว่ามีฝ่ายทำผิดเพียงฝ่ายเดียว
และแพ้ในการตีโต้ลูกด้วย ในกรณีดังกล่าว ไม่มีการแก้ไข
2.2 ถ้าไม่พบการทำผิดเกิดขึ้นก่อนการส่งลูกครั้งต่อไป ไม่ต้องแก้ไข
3. ถ้ามีการ"เอาใหม่" เพราะมีการทำผิดในสนามส่งลูก ให้เล่นใหม่พร้อมกับแก้ไข
4. ถ้าไม่มีการแก้ไขเมี่อมีการทำผิดในสนามส่งลูก การเล่นในเกมนั้นคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยบสนาม
ส่งลูกใหม่ของผู้เล่น(หรือสั่งให้ส่งลูกใหม่ในกรณีเดียวกัน
การเอาใหม่
1. ให้"เอาใหม่"สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อนหรือโดยเหตุบังเอิญ
2. ถ้าลูกข้ามตาข่ายแล้วไปติดอยู่ในหรือบนตาข่ายให้"เอาใหม่"
ยกเว้นระหว่างการส่งลูก
3. ถ้าในระหว่างการส่งลูก ผู้รับลูกและผู้ส่งลูกทำ"เสีย"
พร้อมกัน ให้ "เอาใหม่"
4. ถ้าส่งลูก ส่งลูกโดยที่ผู้รับลูกยังไม่พร้อมให้"เอาใหม่"
5. ถ้าในระหว่างการส่งลูก ลูกขนไก่แตกออกเป็นส่วนๆ
และฐานแยกออกจากส่วนที่เหลือของลูกโดยสิ้นเชิงให้"เอาใหม่"
6. เมื่อมีการ"เอาใหม่" เกิดขึ้น
การเล่นต่อเนื่องจากการส่งลูกครั้งสุดท้ายถือเป็นโมฆะ
และผู้ที่ส่งลูกแล้วจะได้ส่งลูกอีกครั้งหนึ่ง
ลูกไม่อยู่ในการเล่น
1. ลูกชนตาข่ายแล้วติดอยุ่ที่ตาข่าย หรือค้างอยู่ข้างบนตาข่าย
2. ลูกชนตาข่ายหรือเสาตาข่ายแล้วตกลงบนพื้นสนามในด้านของผู้ตีลูกแล้วไม่ข้าม
3. ลูกถูกพื้น
4. เกิดการ"เสีย" หรือ"เอาใหม่"
2. ลูกชนตาข่ายหรือเสาตาข่ายแล้วตกลงบนพื้นสนามในด้านของผู้ตีลูกแล้วไม่ข้าม
3. ลูกถูกพื้น
4. เกิดการ"เสีย" หรือ"เอาใหม่"
การเล่นต่อเนื่อง การทำผิด การลงโทษ
1. การเล่นต้องต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มส่งลูกครั้งแรกจนสิ้นสุดการเล่นในแมทช์นั้น
2. อนุญาติให้พักไม่เกิน 5 นาที ระหว่างจบเกมที่ 2 และเริ่มเกมที่
3 ของทุกแมทช์ในการแข่งขันต่อไปนี้
2.1 การแข่งขันนานาชาติ
2.2 การแข่งขันที่ได้รับอนุมัติรับรองโดยสหพัธ์แบดมินตันนานาชาติ (ไอบีเอฟ)
2.3 การแข่งขันอื่นๆ
2.2 การแข่งขันที่ได้รับอนุมัติรับรองโดยสหพัธ์แบดมินตันนานาชาติ (ไอบีเอฟ)
2.3 การแข่งขันอื่นๆ
3. เมื่อมีเหตุจำเป็นเกิดขึ้นโดนสุดวิสัยอันมิได้มาจากผู้เล่น
กรรมการผู้ตัดสินอาจสั่งให้พักการเล่นชั่วระยะหนึ่งตามที่กรรมการผู้ตัดสินพิจารณาว่าจำเป็น
ถ้ามีการพักการเล่นแต้มที่ได้จะอยู่คงเดิมและจะเริ่มเล่นใหม่จากแต้มนั้น
4. ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ห้ามมิให้พัการเล่นเพื่อฟื้นคืนกำลัง
หรือพักหายเหนื่อยหรือเพื่อรับการสอนหรือคำแนะนำ
5. ห้ามมิให้ผู้เล่นรับคำแนะนำในระหว่างการเล่น
5.1 ห้ามมิให้ผู้เล่นเดินออกจากสนามโดยไม่ได้รับการยินยอมจากกรรมการผู้ตัดสิน ยกเว้นหลังจากการเล่นในแมทช์สิ้นสุดลง6. กรรมการผู้ตัดสินมีสิทธ์สั่งให้พักการเล่นชั่วคราวแต่เพียงผู้เดียว
5.1 ห้ามมิให้ผู้เล่นเดินออกจากสนามโดยไม่ได้รับการยินยอมจากกรรมการผู้ตัดสิน ยกเว้นหลังจากการเล่นในแมทช์สิ้นสุดลง6. กรรมการผู้ตัดสินมีสิทธ์สั่งให้พักการเล่นชั่วคราวแต่เพียงผู้เดียว
7. ผู้เล่นจะต้องไม่
7.1 จงใจให้เกิดการพักการเล่น
7.2 จงใจทำให้ความเร็วและวิถีของลูกขนไก่เปลี่ยน
7.3 แสดงกิริยาก้าวร้าว
7.4 ทำความผิดอื่นๆนอกเหือจากกติกา
7.1 จงใจให้เกิดการพักการเล่น
7.2 จงใจทำให้ความเร็วและวิถีของลูกขนไก่เปลี่ยน
7.3 แสดงกิริยาก้าวร้าว
7.4 ทำความผิดอื่นๆนอกเหือจากกติกา
8. กรรมการผู้ตัดสินจะต้องดำเนินการกับความผิดที่ได้ระบุไว้ในกติกา โดย
8.1 เตือนผู้ที่ทำผิด
8.2 ตัดสิทธิ์ผู้ทำผิดหากได้รับการเตือนมาก่อน
8.3 ในกรณีที่ทำผิดอย่างชัดเจน หรือเคืองแค้น ให้ตัดสิทธิ์ผู้ทำผิดรายงานให้กรรมการผู้ชี้ขาดทราบทันที กรรมการผู้ชี้ขาดมีอำนาจสั่งให้ผู้ทำผิดออกจากการแข่งขัน
8.1 เตือนผู้ที่ทำผิด
8.2 ตัดสิทธิ์ผู้ทำผิดหากได้รับการเตือนมาก่อน
8.3 ในกรณีที่ทำผิดอย่างชัดเจน หรือเคืองแค้น ให้ตัดสิทธิ์ผู้ทำผิดรายงานให้กรรมการผู้ชี้ขาดทราบทันที กรรมการผู้ชี้ขาดมีอำนาจสั่งให้ผู้ทำผิดออกจากการแข่งขัน
9. หากไม่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ชี้ขาด
ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบมีอำนาจสั่งให้ผู้ทำผิดออกจากการแข่งขัน
แหล่งที่มา: http// www.thaigoodview.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น